วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2551

Transmission

10 เมษายน 2551 : Transmission
  • Transmission

หลังจากที่เราได้เรียนเกี่ยวกับ GSM network ไปอย่างคร่าวๆพอสมควรแล้ว ก็จะมาเรียนกันอย่างละเอียดโดยตอนแรกแบบง่ายๆเราจะมองข้าม TRS เป็นอุปกรณ์ transmission ซึ่งอยู่ระหว่าง BTS และ BSC ไปก่อน โดยอุปกรณ์ตัวนี้จะทำหน้าที่ในการ multiplex หรือ MUX นั่นเอง ในกรณีที่ระยะทางในการส่งผ่านจาก BTS ไปยัง BSC มากกว่า 10 km จะไม่ใช้สาย coaxial ในการส่งสัญญาณเนื่องมาจาก loss,noiseและ attenuation เป็นต้น เราจึงใช้การ MUX ในการแก้ปัญหาในการส่งระยะทางไกลๆ โดยจะเปลี่ยนมาใช้เป็น Optic fiber แทน เพื่อรวมสัญญาณความเร็วต่ำส่งไปในสายสัญญาณความเร็วสูง และที่ด้านรับก็จะมีการ DEMUX เพื่อให้ได้สัญญาณความเร็วต่ำเดิมออกมา นอกจากทำให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นแล้วยังช่วยให้ประหยัดขึ้นได้อีกด้วย

Plesiochronous Digital Hierarchy (PDH) เป็นการ multiplex แบบเก่าซึ่ง MUX ได้ความเร็วสูงสุด 155 Mbps เป็นแบบกึ่ง synchronous แบบไม่ต้องใช้ clock มาช่วยโดยต้องต่ออุปกรณ์ที่เป็นแอนาล็อกจึงมีความยุ่งยากมากจึงเปลี่ยนมาเป็น Synchronous Digital Hierarchy (SDH) ซึ่งต้องใช้สัญญาณ clock ช่วยในการเข้าจังหวะ โดยจะมี flag ของแต่ละ frame เป็นตัวกำหนดการเริ่มของ frame




E1 คือ สายสื่อสัญญาณต่ำสุดที่ต้องพิจารณา (ความเร็ว 2 Mbps ) การจะนำ 2 Mbps ไปทำการ multiplex จะต้องเอา 2 Mbps ไปใส่ใน packet ก่อน เรียกว่า "C-12" (ดังนั้น พูดถึง C-12 จะรู้เลยว่าความเร็วต่ำสุด 2 Mbps) เมื่อมีการใส่ over head เข้าไปใน packet เรียกว่า "VC-12" เมื่อมีการใส pointer ซึ่งเป็นตัวชี้ address เมื่อกล่องเล็กๆ (2Mbps) เข้าไปอยู่ในกล่องใหญ่ๆ เรียกว่า "TUG-12" (ตอนนี้เรามีกล่อง 2Mbps ที่มีตราประทับแล้วว่าเป็นกล่องของใคร) จากนั้นเอา กล่องVC-12(หรือ TUG12) จำนวน 3 กล่องมารวมกันเรียกว่า "TUG-2" (TUG-12 x 3 = TUG-2) หลังจากนั้นถ้าเอากล่อง TUG-2 จำนวน 7 กล่องมารวมกันจะเรียกว่า "TUG-3" (TUG-2 x 7 = TUG-3) โดย TUG-3 หากไม่มีการปะ pointer จะเรียกว่า "VC-3" ต่อจากนั้นถ้าเราเอากล่อง TUG-3 จำนวน 3 กล่อง มารวมกันจะเรียกว่า "AUG" โดย 1 AUG จะมีความเร็ว 155 Mbps (2Mbps x 3 x 7 x 3 + overhead + pointer ) ถ้าเราขยายก้อน AUG จะเห็นว่าข้างใน AUG จะมีก้อน 2Mbps ทั้งหมด 63 ก้อน แต่เวลานำก้อน 2Mbps ไปใช้งานตัว multiplex จะเป็นตัวบอกว่าจะดึงก้อนไหนไปใช้งาน

ส่วนใหญ่ BTS และ MUX ทางด้านส่ง จะอยู่ใน site เดียวกันซึ่งระหว่างกลางจะมีอุปกรณ์ Transmission เรียกว่า DDF (Digital distribution frame) จาก MUX ทางด้านส่งจะส่งAUG ผ่านสาย optic fiber ความเร็ว 155 Mbps เรียกว่า "สาย STM-1" เพราะฉะนั้นเวลา planning เครือข่ายจะตั้ง transmission ตามจุดต่างๆเป็น ring เพื่อป้องกันการขาด เพราะถ้าขาดจุดนึงก็เวียนไปอีกทางได้

BSC 1 สถานี จะมีหน้าที่ในการควบคุม หลายๆ Transmission โดยระหว่าง site จะส่งด้วยความเร็วสูง transmission จะถูกวางไว้ทั่ว region ด้วย optic fiber

ใน Overhead จะบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับ O&M (Operation & Maintenance)

  • Alarm

การติดต่อสื่อสารระหว่าง TRS กับ TRS หากมีการผิดพลาดในการสื่อสารเกิดขึ้น เช่นสายส่งขาด จะมีสัญญาณเตือนให้ผู้ดูแลระบบเครือข่ายได้รับทราบเรียกว่า Alarm โดยจะยกตัวอย่าง alarm ที่สำคัญดังนี้ เมื่อมีการส่งข้อมูลจาก node A ไป node B เมื่อสายขาด node B จะได้รับ alarm เป็น LOS (loss of signal) และจะมีการส่ง alarm กลับไปทาง node A เป็น RDI (remote detect indicator) แต่ถ้ามีการส่งข้อมูลจาก node B ต่อไปยัง node C ทาง node C จะได้รับ alarm เป็น AIS (alarm indicator signal)

เมื่อ node A ที่เริ่มส่งได้รับ alarm เป็น RDI จะ switch เส้นทางการส่งให้ใช้เส้นทางสำรองแทน (switch traffic) โดยอาจเป็นเส้นทางวงใน เป็นต้น ดังนั้นเราต้องมี optic fiber ค่อนข้างหลายเส้นหน่อยเพื่อป้องกันสายขาดจึงต้องมีเส้นสำรองเป็นเส้น working 1เส้น และเส้น protection อีก 1 เส้น

STM-1 เมื่อผ่านการ multiplex อีก จะได้ STM-4 (ทีละ4) (เหมือน AUG 4ก้อน รวมกัน) จึงมีความเร็ว 155Mbps x 4 = 622 Mbps

>>>STM-1>>>155Mbps

>>>STM-4>>>622Mbps

>>>STM-16>>>2.5Gbps

>>>STM-32>>>10Gbps

1 ความคิดเห็น:

-FrintZ- กล่าวว่า...

แก้ไขนิดหน่อยนะ

เส้นSTM-1 เมื่อผ่านการ multiplex อีก จะได้ STM-4 (ทีละ4) (เหมือน AUG 4ก้อน รวมกัน) จึงมีความเร็ว 155Mbps x 4 = 622Mbps>>>STM-1>>>155Mbps>>>STM-4>>>622Mbps>>>STM-16>>>2.5Gbps>>>STM-32>>>10Gbps

ปกติการ MUX เค้าจะ MUX เพิ่มทีละ 4 เท่าน่ะ ตอนนั้นพี่อาจเลอะเลือนไปบ้าง ขออภัยๆ
ดังนั้นระดับสัญญาณ STM-32 จึงไม่มีอ่ะ ต้องเป็น STM-64>>>10Gbps ถึงจะถูกน่ะ

ส่วนที่เขียนเล่ามา OK แล้ว มีหารูปมาประกอบด้วย ดีๆ